ดูกันหรือยังว่ะกับหนังเรื่อง World Invasion : Battle Los Angeles-วันยึดโลก!!

หนังตัวอย่าง World Invasion : Battle Los Angeles-วันยึดโลก!!




รูปในฉากบางส่วนของหนังเรื่อง World Invasion: Battle Los Angeles-วันยึดโลก
กูจะมารีวิวหนังเรื่อง World Invasion: Battle Los Angeles-วันยึดโลก
เอาละมาเริ่มกันเลยสำหรับพวกมึงที่ชอบดูหนังแนวเอเลี่ยนยึดโลกหรือบุกโลก
หนังแอคชั่น ( Action ) แนวนี้กูเองก็ชอบนะดูได้จนจบเรื่องจนไม่น่าเบื่อเพราะ
ฉากดราม่า ( Drama ) หรือ ว่ารักใคร่ ๆ จนเยอะเกินไปมีก็แค่้ไม่ถึงนาทีสองนาที

เป็นหนังที่เนื้อหาดีมากอีกเรื่องนึงที่ทำให้รู้ว่าการทำงานเป็นทีมนั้นต้อง
ช่วยเหลือกันในทุกสถานการณ์แต่ต่อไปนี้กูจะเล่าถึงในฉากของแต่ละฉาก
ของหนังเรื่อง World Invasion: Battle Los Angeles-วันยึดโลก
นอกเรื่องมาเยอะและมาเริ่มกันเลยล่ะนะ
เริ่มเรื่องของหนังเรื่องนี้จะมีการพูดเสียงของนักข่าวที่สัมภาษณ์
เกี่ยวกับ ลูกอุกกาบาต ที่ตกลงมาบนพื้นโลก
จากนั้นภาพก็ได้ตัดไปอีกหลายปีประมาณนั้น
ตัดมาอยู่ที่ริมทะเลชายหาดที่มีการฝึกของนาวิกโยธินรุ่นใหม่
ที่ต้องฝึกให้พร้อมออกรบในทุกสถานการณ์
แต่เมื่อฝึกได้ไม่นานก็ได้มีข่าวออกมาว่ามีลูกอุกกาบาต
ได้วิ่งผ่านเข้ามาชั้นบรรยากาศโลกที่มีหลายลูกตกลงมา
ในแต่ละจุดของเมือง LA ( los angeles )
เมื่อนั้นไม่นานนักข่าวฝ่ายของเมือง LA ( los angeles )
ก็ได้พูดออกมาประโยคนึงว่าเมื่อมีลูกอุกกาบาต
ตกลงมาในชายหาดที่กว้างนั้นได้มีคลื่นยักษ์สูงมาก
และมีตัวประหลาดคล้ายร่างมนุษย์ที่มาพร้อมกับ ลูกอุกกาบาต
ประชาชนได้วิ่งหนีตื่นกลัวไปทั้งเมือง
เมื่อนั้นเหล่าพวก นาวิกโยธิน ที่ได้ทำการฝึกอยู่นั้น
หนึ่งในนั้นมีจ่าแนนซ์ที่ชอบเน้นในทางลุยแหลก
ก็ได้ควบคุมลูกน้องคู่กับใครอีกคนที่ต้องสั่งลูกทีมกูจำชื่อไม่ได้
นั่นละแล้วก็ได้รับภารกิจว่าให้ทำการยกพลขึ้นบกพวกลูกทีมที่ได้ฝึกมานั้น
ก็ตกอยู่ในสภาพมีความหวาดกลัวอยู่บ้างเพราะที่ฝึกมานั้น
ไม่ได้มีการฝึกมาเพื่อสู้กับพวกเอเลี่ยนแล้วจ่าแนนซ์ก็ได้บอกลูกทีมว่า
ไม่ต้องกลัวเหมือนพูดให้กำลังใจนั่นล่ะแล้วก็มีลูกทีมถามกลับว่า
จ่าแนนซ์สัญญาจะพาลูกทีมกลับได้ใช่ไหมจ่าแนนซ์ก็ได้ตอบว่า
ไม่มีสญญาในสนามรบ ( สงคราม ) ลูกทีมก็มีความเชื่อในตัวจ่าแนนซ์
ที่มีความบ้าระห่ำ... เมื่อนั้นก็ได้ถึงพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายภารกิจยกพลขึ้นบก
จากนั้นต่อมาเหล่าทีมนาวิกโยธินได้รับคำสั่งจากจ่าแนนซ์ว่าเราต้องยกพลขึ้นบก
เพราะจากศูนย์ได้สั่งมาว่ามีเวลาภายในสองชั่วโมงหรือสามชั่วโมงกูไม่แน่ใจ
จะทำการปูพรมก็คือทำลายล้างในพื้นที่ที่มีเอเลี่ยนต่อมาก็ได้ตามหาพลเรือน
จากที่ต้องตามหา พลเรือน นั้นก็ได้ถูกกลุ่มกองกำลังเอเลี่ยนล้อมไว้ในพื้นที่คล้ายกับบ้าน
ซักอย่างหรือเป็นสถานที่ราชกาลนี่ล่ะจากนั้นก็ได้มีหน่วยที่มาลาดตระเวน
อยู่ สอง หรือ สาม คนนี่ล่ะ ทีแรกที่กลุ่มของจ่าแนนซ์
อยู่ในบ้านหรือสถานที่ราชกาลก่อนหน้านี้ก็ได้ทำการสั่งให้ระวังที่หน้าต่าง
เพราะมีพวกกลุ่ม เอเลี่ยน ล้อมไว้หมดไม่ว่าจะบนหลังคา หรือ พื้นดิน
จากนั้นเมื่อที่มีกลุ่มลาดตระเวนให้สัญญาณจ่าแนนซ์ก็ได้บอกลูกทีมว่า
พวกเราลูกทีมก็บอกเหมอนพูดประมาณว่าเกือบไปแล้ว
เพราะเตรียมขึ้นปืนแล้วพร้อมเตรียมยิง
จากนั้นก็เข้ามาร่วมทีมกับจ่าแนนซ์แต่ละหน่วยที่มาใหม่ได้ถูกลอบยิง
ก็ได้มีความสามารถและในความถนัดเฉพาะทางที่ถูกฝึกฝนมา
ในนั้นได้มีหน่วยการแกะลอยตามสัญญาณวิทยุต่าง ๆ
แต่หน่วยที่เข้ามานั้นได้แกะลอยสัญญาณวิทยุของ เอเลี่ยน และ ไม่นานจากนั้น
ก็ได้ทำการตามหาพลเรือนต่อไปไม่นานก็ได้เจอพลเรือนอยู่ในสถานที่แห่งนึง
ก็ได้พบกับ เด็กสามคน ผู้ใหญ่ สองคน จากนั้นก็ได้คิดแผนจะออกจากที่นี่ยังไง
จากนั้นไม่นานก็พบซาก เอเลี่ยน ที่คล้ายกับจะเสียชีวิตหรือตายห่านั้นละ
หนึ่งในผู้ใหญ่นั้นได้มีนักวิทยศาสตร์หรืออะไรซักอย่างเมื่อได้พบซาก เอเลี่ยน
ที่กำลังจะตายห่าจ่าแนนซ์กับที่เป็นนักสัตวแพทย์ไรซักอย่างที่กูบอกว่าจำไ่ม่ค่อยได้่
จ่าแนนซ์ก็ได้ทำการเอามีดมาลองแงะซาก เอเลี่ยน เพื่อหาจุดตายของ เอเลี่ยน
จากนั้นไม่นานก็ได้พบจุดตายของ เอเลี่ยน ว่าอยู่ใต้ลงมาของหัวใจมนุษย์
เพราะที่กว่าจะหาจุดตายเจอ เอเลี่ยน ก็ได้บุกเข้ามายังสถานที่พวกเขาอยู่
เมื่อนั้นไม่นานกลุ่มนาวิกโยธินกับพลเรือนก็เดินทางด้วยเท้าไปเรื่อย ๆ
เพื่อที่จะไปให้ถึงประตูทางออกของตึกหรือสถานที่ที่พวกเขาอยู่
แล้วจากนั้นก็ได้พบรถเมลอยู่คันนึงนาวิกโยธินที่เป็นลูกทีมก็ได้ทำการ
ออกจากตึกเพื่อที่ไปเอารถเมลกองหนุนด้านหลังก็ยิงคุ้มกันก่อนหน้านี้
จ่าแนนซ์ได้พบว่า เอเลี่ยน ติดตามรู้จุดของมนุษย์ด้วยคลื่นวิทุย
ที่สงสัญญาณต่าง ๆ หลังจากนั้นที่พบรถเมลแล้วก็ขับไปเรื่อย ๆ
เพื่อไปยังสะพานเพื่อที่ให้พ้นทางที่ศูนย์จะทำการปูพรม
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสะพานที่เขาเดินทางไปถึงนั้น
ได้ขาดพังเพราะฝีมือ เอเลี่ยน จากนั้นพวกเขาก็ได้ทำการโรยตัวลงไป
แต่ก็ได้มีผู้เสียสละชีพทำการระเบิดรถเมลเพื่อที่จะให้ พลเรือน และ นาวิกโยธิน 
ที่เหลือได้ช่วย พลเรือน ที่รอดตายมาจากนั้นก็ได้ไปถึงศูนย์
พวกเขาก็ได้รู้แล้วว่าทำใมพอถึงเวลาปูพรมถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เพราะที่ศูนย์ได้ถูก เอเลี่ยน ถล่มเละจนไม่เหลือมนุษย์โลกซักคน
จากนั้นต่อมาพวกเขาก็ได้พบแผนที่กลยุทธได้มีขีดปากกาสีแดงพวกลูกทีมก็ได้สงสัยคืออะไร
จ่าแนนซ์ก็ได้ตอบไปว่าจุดสีแดงคือที่โดนถล่มไปหมดแล้วไม่เหลือซาก
จากนั้นต่อมาพวกเขาก็ได้ทำการไปหาลูกปืนเพิ่มเติมจากเพื่อนร่วมงานที่ตายในหน้าที่แล้ว
แต่พวกเขาก็ยังเคารพเพื่อนหน่วยที่จากไปจากนั้นต่อมา
พวกเขาที่คิดว่าปลอดภัยแล้วก็ทำการเรียก เฮลิคอปเตอร์
มารับพวกเขาจากนั้นก็ได้เจอจุดที่สัญญาณแรงสูงที่อาจทำให้ไฟฟ้าดับได้
แต่ เฮลิคอปเตอร์ บินห่างจากจุดนั้นใกล้อยู่นะและจ่าแนนซ์
ก็ได้บอกให้ เฮลิคอปเตอร์ จอดในบริเวณใกล้ ๆ จุดที่สัญญาณแรงสูง
เขาก็ได้ โรยตัว ลงมาลูกทีมก็ได้ โรยตัว ลงมาตาม จ่าแนนซ์
โดยที่ก่อนนี้ จ่าแนนซ์ ก็ได้สั่งลูกทีมให้พา พลเรือน กลับไปยังที่ปลอดภัย
ลูกทีมก็ได้ตอบจ่าแนนซ์ว่าพวกเขาปลอดภัยแน่นอนไม่ต้องห่วง
แต่พวกเราจะปล่อยจ่าแนนซ์บ้าระห่าคนเดียวได้ไงประมาณนี้นะ
กูก็จำประโยคทุกคำพูดไม่ได้หมดบางคำกูก็ปรุงแต่งใส่ไปด้วย
มาต่อกันดีกว่าจากนั้นจ่าแนนซ์ก็ได้คิดแผนหาวิธีการที่จะไป
ทำลายสัญญาณนั้นได้อย่างไรจากนั้นต่อมาพวกเขาก็ได้ลงไปในท่อหรือท่อใต้ดิน
กูก็ไม่แน่ใจนะเว้ยต่อมาพวกเขาก็เดินตามเส้นทางของท่อใต้ดินมาเรื่อย ๆ
ตามเส้นทาง จากนั้นก็ได้เจอเงาของเอเลี่ยนและจากนั้นไม่นาน
เอเลี่ยน ก็ได้รู้ตัวว่ามีมนุษย์โลกบุกเข้าไปพวกกลุ่ม นาวิกโยธิน 
ก็คิดว่ากลับขึ้นมาทางเดิมจากนั้นจ่าแนนซ์ก็ได้พบคล้ายกับยานแม่ของ เอเลี่ยน
จ่าแนนซ์ก็ได้เรียกวิทยุไปยังฐานที่ติดต่อได้เพื่อที่จะให้ส่งอะไรว่ะกูไม่แน่ใจ
มิสไซล์ หรือไรนี่ละที่มันต้องล่อเป้าด้วยแสงเลเซอร์ ( Laser ) ที่อยู่กับกลุ่ม นาวิกโยธิน 
ทาง นาวิกโยธิน ก็ได้ทำการเอา เลเซอร์ ( Laser ) ชี้เป้าไปที่ยานแม่นั้น
ให้มิสไซล์ถูกจุดจากนั้นต่อมาไอ้ห่าเฮ้ยกูนั่งดูอยู่ที่น่าทึ่งย่านแม่แม่งบินได้
และมียานลูกที่ปล่อยออกมาเป็นตัวล่อมิสไซล์เพื่อให้มิสไซล์สับสน
ยิงไม่ถูกยานแม่ของพวก เอเลี่ยน แต่พวกเขา นาวิกโยธิน ก็คิดแผนต่อว่าจะทำยังไง
ให้ยานลูกที่คล้ายเครื่องบินตกพวกเขาก็ทำการเอาปืนที่มีประสิทธิภาพสูง
กูก็เรียกไม่ถูกนะที่พวก นาวิกโยธิน แบกมาที่แขวนไว้ข้างหลัง
อ่อ ปืน บาซูก้า นี่เอง หรือ ถ้ากูเรียกผิดก็เรื่องของพวกมึงที่จะเข้าใจ
ต่อมาพวก นาวิกโยธิน  ก็เอาปืน บาซูก้า ยิงยานลูกพร้อมกับ
ที่ช่วง มิสไซล์ ถูกปล่อยออกมาที่จะใกล้ถึงยานแม่เข้ามาเต็มทีแล้ว
พวกกลุ่ม นาวิกโยธิน ก็ได้ใช้ บาซูก้า ยิงเข้ายานลูกแบบเข้าเป้า
จากนั้นต่อมา มิสไซล์ ก็ได้ยิงถูกยานแม่ของพวก เอเลี่ยน แบบจัง ๆ
ทำให้ยานแม่ของ เอเลี่ยน ร่วงจากนั้นเมื่อย่านแม่ เอเลี่ยน ร่วง
พวกกลุ่มยานลูกที่บินวนอยู่รอบ ๆ ยานแม่นั้นก็ ร่วง ลงมาตาม ๆ กันเรื่อย ๆ
จากนั้นพวก ลูกล้อ ลูกสมุน ของ เอเลี่ยน ก็ต่างพากันหาที่หลบซ่อนตัว
เพราะตัวแม่ตายห่าไปแล้วพวกลูกล้อ ลูกสมุน จะอยู่ทำใมล่ะ
จากนั้นพวกพ้องทหารก็ยกกองทัพมาถล่มพวก เอเลี่ยน กลุ่ม นาวิกโยธิน
ก่อนหน้านี้ก็ได้ขึ้น เฮลิคอปเตอร์ กลับไปยังฐานแต่พวกเขาก็ไม่หยุดเพียงเท่านี้
พวกเขาเตรียมอาวุธเพื่อกลับไปถล่มกลุ่มพวก เอเลี่ยน ให้หมดสิ้น
จากนั้นต่อมามุมกล้องก็ถ่ายให้ทั่วเมืองที่ถูก เอเลี่ยน ถล่มนั้นแล้วแม่งก็จบเอาดื้อ ๆ
แต่หนังเรื่องนี้ก็ได้สอนให้รู้ว่าการที่เรารับฟังหัวหน้าทีมและการทำงานเป็นทีม
มีประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายถ้าหากแตกกลุ่มการทำงานก็จะไม่ราบรื่น
ถ้าหากพวกมึง งง กับที่กูรีวีหรือเล่าให้อ่านนั้นกูก็ไม่ได้ซีเรียสแต่ถ้าพวกมึงซีเรียส
ก็เรื่องของพวกมึงไปหาหนังเรื่อง World Invasion : Battle Los Angeles-วันยึดโลก!!
มาดูกันเอาละกันสำหรับเฉพาะคนที่ยังไม่ได้ดูนะไอ้สัตว์คนที่ดูแล้วอย่าเสือกมาปากหมาละกัน
ที่เที่ยวคอยจะโพสด่าชาวบ้านทั้ง ๆ ที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเที่ยวเอาด่าไปเรื่อย
หวังว่าพวกมึงคงจะเข้าใจที่กูบอกนะเว้ย

ปล. สรุปเรื่องนี้แม่งยิงกันทั้งเรื่องระห่ำเหี้ย ๆ โคตรชอบหนังเรื่อง World Invasion : Battle Los Angeles-วันยึดโลก!!  เลยวะ